รังสี UV เป็นหนึ่งในรังสีจากแสงอาทิตย์จากแสงอาทิตย์ เมื่อผ่านมายังโลกจะุถูกกรองโดยชั้นโอโซนในบรรยากาศทำให้มีปริมาณลดลงเมื่อตกถึงผิวโลกแต่ในปัจจุบันโอโซนในชั้นบรรยากาศได้ถูกทำลายไปบางส่วนจึงทำให้รังสี UV สามารถถึงผิวโลกในปริมาณที่มากขึ้น อันมีผลเสียกับสุขภาพมนุษย์โดยเฉพาะกับ ผิวหนัง ตา และระบบภูมิคุ้มกันยิ่งกับเด็กเยาวชนแล้วผลเสียก็จะยิ่งมากขึ้น และเยาวชนต้องได้รักการปกป้องรังสี UV ที่มากเป็นพิเศษ ด้วยเหตุที่ว่า
  1. ผิวหนังของเด็กจะบอบบางและไวกว่าผู้ใหญ่ แม้กระทั่งการดโดนรังสี UV ในปริมาณเล็กน้อย ผิวของเด็กก็ไหม้เกรี่ยวได้ง่ายมาก
  2. จากการศึกษาทางระบบวิทยาพบว่าบุคคลที่โดนรังสี UV บ่อย ๆ และผิวไหม้เกรียมจากรังสี UV ในวัยเด็ก บุคคลนั้นก็จะมีโอกาสสูงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังชนิด Melanoma ในเวลาต่อมา
  3. การโดนรังสี UV มาก จะทำให้เด็กมีโอกาสเป็นโรคมากขึ้น และเมื่อเป็นโรคก็จะใช้เวลานานกว่าปกติกว่าจะหาย สุขภาพโดยทั่ว ๆ ไปไม่แข็งแรง อายุสั้น มีความเสียงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนัง และต้อกระจกสูง
  4. ในวัยเด็กมีแนวโน้มที่จะโดนรังสี UV มากกว่าในวัยผู้ใหญ่ จากการปรเมินพบว่า ในคน ๆ หนึ่ง 80% ของการโดยรังสี UV ทั้งชีวิตจะอยู่ที่ก่อนอายุ 18 ปี
  5. โดยธรรมชาติของเด็กมักชอบเล่ีนในที่โล่งแจ้ง และเด็กก็ไม่ได้ตระหนักถึงภัยจากรังสี UV แม้แต่น้อย

การป้องกันเมื่อต้องโดนแสง UV สำหรับเยาวชน

     พ่อแม่และผู้ใหญ่จะต้องเอาใจใส่ให้ความรู้ และกระทำเป็นตัวอย่างแก่เด็กเรื่องการป้องกันรังสี UV โดยมีหลักง่าย ๆ ดังนี้
  1. สวมใส่เสื้อผ้า หมวก และแว่นกันแดด
  2. ทาครีมกันแดดที่กันได้ทั้ง UVA และ UVB ที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป
  3. ทุกครั้งที่ต้องตากแดด จะต้องกำหนดเวลาที่จะต้องตากแดดเสมอว่าจะต้องไม่นานเกินไป
  4. เข้าหาที่ร่มทุกครั้งที่มีโอกาส
  5. หลีกเลี่ยงแสงไฟจ้า
     นอกจากนี้ควรตระหนักว่าการป้องกันแดดนั้นจะต้องทำการป้องกันตลอดเวลา เพราะหลายคนอาจคิดว่าจะป้องกันก็ต่อเมื่อยามไปชายทะเล หรือไปว่ายน้ำเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วเด็ก ๆ อาจจะโดนรังสี UV จนทำให้ผิวไหม้ได้แม้กระทั่งวันหยุดที่อยู่บ้าน