อิทธิพลของแสงแดดหน้าร้อนต่อสุขภาพคุณ
 
 
เข้าหน้าร้อนแล้ว อากาศอ้าวขึ้นทุกๆปี ต้นไม้ใบไม้ก็ลดน้อยลง เปลี่ยนไปเป็นตึกรามบ้านช่อง อาคารสูงๆ เข้ามาแทนที่ ซึ่งอาคารเหล่านี้ก็จะมีเครื่องปรับอากาศช่วยสร้างความเย็นกันแทบทุกแห่ง โดยท่านทราบหรือไม่คะว่ามันจะทำการเป่าลมระบายลมร้อนออกมา เป็นผลทำให้เกิดสภาพเหมือนกับเตาอบร้อนระอุขึ้นมาโดยปริยาย
หน้าร้อนอย่างนี้คุณผู้อ่านหลายๆท่าน คงจะเริ่มเตรียมตัวหาวิธีดับความร้อนกันบ้าง แล้วใช่ไหมคะ แต่ละคนก็คงจะมีวิธีดับความร้อนที่แตกต่างกันไป แต่เหนือสิ่งใดนั่นก็คือ ควรระวังอันตรายที่จะเกิดจากแสงแดดไว้ได้ด้วย เนื่องจากรังสีอุลตร้าไวโอเลตในแสงแดดนั้น นอกจากจะมีโอกาสทำให้ผิวของคุณเกิดการหมองคล้ำแล้ว ยังสามารถทำให้เกิดกระ และฝ้าขึ้นได้อีกด้วย รังสีในแสงแดดยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำลายเนื้อเยื่อคอลลาเจน และอีลาสตินในชั้นหนังแท้ ทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นแก่ก่อนวัยได้ง่าย และหากคุณได้รับรังสีอุลตร้าไวโอเลตมานานปี ก็อาจเกิดมะเร็งที่ผิวหนังเป็นของแถมอีกด้วย
ดังนั้นเมื่อรู้เช่นนี้แล้ว การเตรียมรับมือกับแสงแดดก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากเย็นอีกต่อไปซึ่งวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาความสวยงามของผิวพรรณไว้ ก็คือการหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่แดดจัดๆ อย่าง 8 โมงเช้าถึงบ่าย 4 โมงเย็น และควรปกป้องผิวพรรณของคุณจากแสงแดดโดยการใช้ครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน แน่นอนค่ะแม้ว่าคุณจะใช้ครีมกันแดดทุกวันแล้วก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะมีสิทธิ์ไปยืนตากแดด หรือนอนอาบแดดกันวันละหลายชั่วโมงได้นะคะ ทั้งนี้เพราะครีมกันแดดที่ดีที่สุด และบ่งบอกว่ากันน้ำได้นาหลายๆ ชั่วโมง ก็ยังไม่สามารถปกป้องผิวของคุณได้ 100%นะคะ เพราะตากแดดนานๆ หรืออยู่ในบริเวณที่มีความร้อนสูงๆ เหงื่อที่ออกมานั้น ก็เหมือนกันน้ำที่คุณชำระล้างไปบนผิวหน้า และผิวตัว ดังนั้นครีมกันแดดส่วนหนึ่งก็มักจะหลุดออกมาได้บ้าง การปกป้องจึงไม่เต็มที่
คำแนะนำก็คือ สำหรับคุณที่ทำงานอยู่ในออฟฟิศ หรือคุณแม่บ้านที่ไม่ได้มีโอกาสตากแดดมากนก ก็อาจทาครีมกันแดดเพียงวันละครั้งในตอนเช้าก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าหากคุณมีภาวะกิจที่จำเป็นจะต้องอยู่กลางแสงแดด หรือมีกิจกรรมที่ต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นเวลานานๆ ก็ควรจะทาครีมกันแดดซ้ำบ้าง อาจวันละ 2-3 ครั้งก็ได้ค่ะ ในการทาครีมกันแดดซ้ำนั้นคุณเพียงแต่ซับเหงื่อให้แห้งแล้วก็ทาครีมกันแดดทับหรือเกลี่ยบางๆ เท่านั้น โดยไม่จำเป็นต้องล้างหน้าออก อ่านต่อ
สิ่งที่ไม่ควรลืมก็คือ การทาครีมกันแดดนั้น ควรทาทิ้งไว้อย่างน้อย 20-30 นาทีก่อนที่คุณจะไปมีกิจกรรมใดๆกลางแจ้ง ทั้งนี้เพื่อให้ครีมกันแดดได้มีเวลาแทรกซึงลงไปปกป้องเซลล์ผิวหนังเสียก่อน
ครีมกันแดดที่เลือกใช้ควรจะมีค่าไม่ต่ำกว่าเบอร์ 15 นะคะ ซึ่งส่วนใหญ่ที่ใช้กันอยู่จะมี 2 ชนิด ได้แก่ เคมีคอล ซันบล็อค และฟิซิคอล ซันบล็อค ประเภทที่เป็นเคมีคอล ซันบล็อคนั้นหมายถึงสารเคมีที่ใช้ในการปกป้องแสงแดดจะทำปฏิกิริยาไม่ให้รังสีอุลตร้าไวโอเลตซึมลงไปทำอันตรายต่อเซลล์ผิวหนังได้ ซึ่งบางชนิดจะมีการผสมอีฟนิ่ง พริมโรส ออย์บริสุทธิ์ หรือที่เรียกกันว่า “EPO” ซึ่งเป็นน้ำมันที่สกัดจากเมล็ดของดอกอีฟนิ่ง พริมโรส ครีมดันแดดเหล่านี้นอกจากจะช่วยกันแดดแล้วยังช่วยให้เซลล์ผิวหนังมีความแข็งแรง และยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอีกด้วย
ส่วนครีมกันแดดชนิดที่เป็นฟิซิคอล ซันบล็อกนั้น เป็นการกั้นไม่ให้รังสีจากแสงแดดลงมากระ ทบผิวโดยช่วยสะท้อนออกไป แสงแดดจึงไม่สามารถทำอันตรายต่อผิวได้ โดยมากจะใช้สารไทเทเนียม ไดออกไซด์ (Titanium dioxide) และซิงค์ ออกไซด์ (Zinc oxide) ซึ่งสารทั้ง 2 ชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นโมเลกุลเล็กๆ ที่ไม่แทรกซึมลงไปใต้ผิวหนัง แต่จะเคลือบผิวไว้ และสะท้อนแสงออกไปได้ดี
คุณคงจะเห็นแล้วว่า แสงแดดนั้นสามารถทำลายผิวพรรณของคุณได้มากเพียงใด ดังนั้นทางที่ดีจึงควรจะหลบเลี่ยงแสงแดดที่แผดจ้า และทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน เพื่อคุณจะได้มีผิวสวยไว้ต้อนรับฤดูร้อนที่ใกล้จะมาถึงนี้ยังไงล่ะคะ
 

สาว ๆ ที่รักผิวสวยฟังทางนี้ Minus Sun มีเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับดูแลผิวมาฝากกัน
  เรื่องของแสงแดด
 
  วิธีเตรียมผิวรับมือกับแสงแดด
 
  ควรใช้ครีมกันแดดตั้งแต่เด็กหรือไม่?