ควรใช้ "ครีมกันแดด" ตั้งแต่ยังเด็กหรือไม่ ?
การใช้ครีมกันแดดป้องกันอันตรายจากแสงแดดตั้งแต่เด็ก จะได้ผลดีกว่ามาเริ่มใช้เมื่อเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งมีการเสื่อมของผิวหนังเกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากพิษภัยจากรังสีอัลตราไวโอเลตจะค่อยๆ สะสมทีละน้อย ตั้งแต่เด็กยิ่งเด็กๆ มีกิจกรรมกลางแจ้งมากเท่าในเมื่อโตขึ้นผิวหนังก็จะยิ่งเสื่อมมากขึ้นถ้าไม่มีการป้องกัน
 

 
จำเป็นหรือไม่ที่ต้องใช้กันแดดทุกฤดู หรือไม่?
การใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ครีมกันแดดก็เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดซึ่งมีส่วนทำลายผิวให้เกิดความเหี่ยวย่น การทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันจึงเป็นเสมือนการสร้างเกราะคุ้มกันให้กับผิวหน้า ถ้าหากว่าคุณไม่ค่อยได้เผชิญกับแสงแดดแรง ๆ ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ก็ถือว่าเพียงพอแล้วละค่ะ ในช่วงกลางวันที่แดดจ้า การหลบแดดถือว่าเป็นวิธีป้องกันผิวที่ดีที่สุด หรือถ้าต้องไปเผชิญแสงแดดในตอนกลางวันกันจริง ๆ คุณควรสวมหมวก ปีกกว้าง สวมแว่นกันแดด และใส่เสื้อผ้าโทนสีเข้ม เนื้อหนา ซึ่งจะช่วยป้องกันการทะลุผ่านของรังสี UV ทั้ง UVA ที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดผิวคล้ำและริ้วรอย UVB ที่ทำให้ผิว ไหม้เกรียมได้ในระดับหนึ่ง
 
 
แสงแดดทำให้แก่ก่อนวัยจริงหรือไม่ ?
ปัญหารอยย่นหรือริ้วรอย แห่งวัยทั้งหลายบนใบหน้าของคุณเกิดจากการถูกทำลายจากแสงแดดถึง 90 % ทั้งแสง UVA และ UVB จากแดดล้วนมีโทษต่อผิวทั้งชั้นหนังกำพร้า ชั้นบนและชั้นหนังแท้ สามารถทำให้เกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ รอยย่นรวมถึงมะเร็งผิวหนัง ฉะนั้นเราควรใช้ครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน ไม่ว่าคุณจงใจจะออกจากบ้านหรือเปล่า โดยเลือกใช้ครีมกันแดดให้เหมาะกับผิวของตัวเอง รวมถึงเลือกครีมกันแดดที่สามารถป้องกันได้ทั้งแสง UVA และ UVB และไม่ทำให้เกิดสิวหรืออาการแพ้นะคะ
 
 
 แสงแดดมีประโยชน์มั๊ยคะ ?
แสงแดดเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และจำเป็นต่อทุก ๆ สิ่งบนโลกของเรานะค่ะ แล้วสำหรับเราดียังไงมาเรียนรู้กันดีกว่านะค่ะ
1.ช่วยให้เราสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
2.ช่วยฆ่าเชื้อโรค
3.เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
4.ทำให้อารมณ์ดี
5.ช่วยสร้าง Vitamin D ให้แก่ร่างกาย ซึ่งเชื่อว่าป้องกันการเกิดมะเร็งได้ ( เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ )

 
 
UVB, UVA1,UVA2 มันคืออะไรกันแน่คะ ?
จริงจริงแล้วนั้น.....รังสี UVแบ่งออกเป็นหลายประเภท ตามความยาวคลื่น นั้นเอง เช่น UV1 ความยาวคลื่น 340-400 นาโนเมตร UV2 ความยาวคลื่น 320-340 นาโนเมตร UVB ความยาวคลื่น 290-320นาโนเมตร และ ที่สำคัญไปกว่านั้น ก็คือ รังสี UV แต่ละช่วงนั้นส่งผลกระทบกับผิวหนังเราต่างกัน คือ UVB และ UVA2 นั้น ทำให้เกิดผิวไหม้เกรียม อาการ แดง หมองคล้ำ มะเร็งผิวหนัง ฝ้า และ กระ ส่วน UVA1 นั้น ทำให้เกิดปัญหาริ้วรอย หมองคล้ำ มะเร็งของเซลล์สร้างสี ติดตามรายละเอียดแบบเต็มรูปแบบได้ที่นี่ค่ะ
 
 
ใช้ครีมกันแดดแค่ทาให้ทั่วใช่มั๊ยคะ ?
การใช้ครีมกันแดดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดดีใช่ว่า็แค่ทาให้ทั่วเท่านั้นนะคะ แต่ควรจะต้องทาใหุู้ถูกวิธีด้วยค่ะ มาดูวิธีง่าย ๆ แต่เกิดประโยชน์สูงสุดมีดังต่อไปนี้ค่ะ
1. ควรทาก่อนออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ประมาณ 15 นาที – ครึ่งชั่วโมง เพื่อให้ยาแห้งและจับตัวกับผิวชั้นหนังกำพร้า เป็นที่เรียบร้อยก่อน
2. ควรทาตามปริมาณที่กำหนด คือ 2 gm./cm2 โดยมักพบว่าผู้ใช้สามารถจะทาหนาเพียง 0.5 gm./cm2 เท่านั้น
3. ในขณะที่ตากแดดเป็นเวลานานๆ หรือมีกิจกรรมที่มีเหงื่อ เปียกน้ำ ย่อมทำให้ความสามารถของยาเสื่อมลง ควรทาซ้ำบ่อยๆ เพื่อคงประสิทธิภาพไว้ทุกๆ 2 ชั่วโมง
4. ควรทาให้หนาสม่ำเสมอทั่วทั้งใบหน้า เพราะการทาไม่ทั่วจะทำให้เกิดผิวไหมบางส่วนได้ โดยเฉพาะต้นคอ และขมับที่พบบ่อยๆ
5. ควรทากันแดดทุกวัน เพราะรังสี UV เป็นรังสีที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า สามารถทะลุผ่านกำแพง และกระจกได้อย่างสบาย

ติดตามรายละเอียดแบบเต็มรูปแบบได้ที่นี่ค่ะ
 
 
ลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF เท่าไหร่ดีคะ ?
ทุกท่านคงสงสัยแล้วใช่ไหมคะว่า ค่า SPF เหล่านี้ต้องมีค่าเท่าไรจึงจะเหมาะสม จำง่ายๆ ค่ะ PFA ? 8 และ SPF ? 30 อย่างไรก็ตามการจะเลือกใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสมควรคำนึงถึงสภาพผิวของเราด้วยนะคะ อย่าเพียงแต่ดูค่า PFA และ SPF เท่านั้น เพราะสารกันแดดแต่ละชนิดมีตัวทำละลายที่แตกต่างกัน ถ้าเราเป็นผู้ที่มีปัญหาผิวผสมถึงผิวมัน ควรเลือกใช้สารกันแดดที่มีลักษณะเป็นเจลหรือโลชั่น แต่หากเป็นคนผิวแห้ง ควรใช้สารกันแดดที่มีลักษณะเป็นครีม
 
 
จำเป็นหรือไม่ที่ต้องทาครีมกันแดดในหน้าหนาว?
การป้องกันแสงแดดนั้นมีความสำคัญสำหรับคนทุกอายุไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการถูกทำร้ายจากแสงแดดระยะสั้น หรือระยะยาวก็ตาม การตากแดดหรือการรับรังสีจากแสงแดดนานๆ อาการที่ทำให้เห็นในระยะเฉียบพลัน ทำให้ผิวหนัง มีอาการปวดแสบปวดร้อน แดง ผิวไหม้ ที่เลวร้ายที่สุดก็คือทำให้เกิด มะเร็งผิวหนัง ในระยะยาวทำให้เกิด ริ้วรอย กระ จุดดำตามผิวหนัง เส้นเลือดขยาย และจะพบว่ามีอาการหน้าแดง สภาพผิวโดยรวมเปลี่ยนและดูแก่กว่าวัย ท้ายสุดก็เกิดมะเร็งนั่นเอง

จากการศึกษาวิจัยของแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ พบว่า การใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสามารถป้องกันการทำร้ายจากแสงแดด และลดอุบัติการณ์ การเกิดมะเร็งที่ผิวหนังได้ เริ่มตั้งแต่การสวมเสื้อผ้าป้องกันแสงแดด แว่นกันแดด ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 เป็นอย่างน้อยเมื่อต้องเผชิญแสงแดด หรือแม้แต่วันที่มีเมฆหมอกก็ตาม รังสีของแสงแดด มีทั้งแบบที่มองเห็นและมองไม่เห็น ลำแสงที่มองไม่เห็นนี่แหละที่เป็นตัวอันตราย เช่น Ultraviolet-A (UVA) และ ultraviolet-B (UVB) ซึ่งเป็นสาเหตุของทั้งหมดที่หมอได้กล่าวไป ปัจจุบันมีครีมกันแดดที่สามารถปกป้องทั้ง UVA และ UVB ได้ มากมายในท้องตลาด


 
 
เอาครีมกันแดดที่ทาตัวมาตาหน้าได้หรือไม่ ?
ข้อสำคัญในการใช้ครีมกันแดดนั้นคืออย่าได้นำครีมกันแดดสำหรับทาผิวกายมาใช้ร่วมกับบริเวณผิวหน้า เพราะความละเอียดอ่อนของผิวหนังหน้านั้นแตกต่างกัน ความพิถีพิถันก็แตกต่างกันด้วย และควรเลือกใช้แต่ผลิตภัณฑ์ ที่ปลอดภัย ไร้กลิ่น สี ที่จะนำมาซึ่ง สิว ผด ผื่น ต่างๆ ผลิตภัณฑ์ที่ดีควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ เพียงแค่นี้แสงแดดที่อยู่คู่กับมนุษย์ชาติมานานแสนนานและให้แต่คุณประโยชน์ก็จะยังคงเป็นเช่นนั้นเหมือนเดิม ไม่เป็นอันตรายต่อคุณอีกต่อไป
 

 

   
สาว ๆ ที่รักผิวสวยฟังทางนี้ Minus Sun มีเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับดูแลผิวมาฝากกัน
  เรื่องของแสงแดด
 
  วิธีเตรียมผิวรับมือกับแสงแดด
 
  ควรใช้ครีมกันแดดตั้งแต่เด็กหรือไม่?